คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยมีหน้าที่สำคัญในการช่วยสร้างเนื้อเยื่อและช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น เมื่อร่างกายเกิดบาดแผล ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่เพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย อย่างไรก็ดี หากร่างกายสร้างคอลลาเจนมากเกินไปหรือผิดปกติ ก็อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
รอยแผลเป็นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ
รอยแผลเป็นนูน (Hypertrophic scars) มีลักษณะนูนออกมาจากผิวปกติ มักพบบริเวณที่เกิดการบาดเจ็บ เช่น แผลผ่าตัด แผลไฟไหม้ แผลสิว เป็นต้น
รอยแผลเป็นคีลอยด์ (Keloid scars) มีลักษณะนูนออกมาจากผิวปกติและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มักพบบริเวณที่เกิดการบาดเจ็บหรือผ่าตัดบริเวณไหล่ หน้าอก ใบหู และแขน เป็นต้น
สาเหตุของการเกิดรอยแผลเป็นนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด
พันธุกรรม
ตำแหน่งของแผล
ความลึกของแผล
ระดับการอักเสบของแผล
การดูแลรักษาแผล
การรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงอาจช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นได้
ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะพง
กระดูกอ่อน เช่น น้ำซุปกระดูก เยลลี่กระดูกอ่อน
เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ปีก เนื้อวัว เนื้อหมู
ไข่
ถั่ว
ผักใบเขียว
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม ที่มีคอลลาเจนจำหน่ายอยู่ทั่วไป ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้มักมีราคาสูงและยังไม่มีงานวิจัยที่พิสูจน์ว่าสามารถช่วยลดรอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการรักษารอยแผลเป็น
การใช้ยาทา เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาทาลดการอักเสบ ยาทาที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์อื่นๆ เช่น กรดไฮยาลูรอนิก กรดแลคติก เป็นต้น
การฉีดยา เช่น การฉีดยาสเตียรอยด์ การฉีดยาเลเซอร์
การผ่าตัด มักใช้ในกรณีที่รอยแผลเป็นมีขนาดใหญ่หรือรุนแรง
การรักษารอยแผลเป็นอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
สรุป
คอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี นอกจากคอลลาเจนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการเกิดรอยแผลเป็น เช่น การสูบบุหรี่ การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้
ผู้ที่มีปัญหารอยแผลเป็นควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้รอยแผลเป็นแย่ลง เช่น การแกะเกา การสัมผัสกับความร้อนหรือแสงแดด การสัมผัสกับน้ำร้อนหรือน้ำส้มสายชู เป็นต้น
หากมีรอยแผลเป็นควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม หรือทาน อาหารเสริม เพื่อให้รอยแผลเป็นดูจางลงและเรียบเนียนขึ้น
%20TPCC2.jpg)
